Last updated: 2020-12-25 | 78 จำนวนผู้เข้าชม |
ความเห็นพ้องจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จากหลายประเทศทั่วโลกในตอนนี้ ต่างมองไปในทางเดียวกันว่าไวรัสโคโรนา มีทีท่าว่าจะส่งผลกระทบอีกยาวนานอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปีดังนั้นในปัจจุบันนี้นอกจากจะต้องบริหารจัดการธุรกิจและชีวิตอย่างระแวดระวังแล้ว สิ่งที่ทุกคนควรต้องรู้คือ จะทำอย่างไรให้ฟื้นตัวได้เร็วที่สุดหลังจากจบวิกฤตการณ์นี้
พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปทันทีระหว่างการเกิดโรคระบาด
ต้องบอกว่าไวรัสโคโรนา ไม่เพียงแต่จะสร้างผลกระทบเชิงการแพทย์และสาธารณสุขเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมให้กับทุกประเทศทั่วโลก สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันทีในยุคนี้จึงไม่ใช่แค่เพียง การแทนที่ (Disruption) แต่เป็นแนวโน้มของการเกิด ความปกติใหม่ (New normal) ซึ่งจะส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงในทุกมิติของโลก
ในข้อแรกคือ ชีวิตของพลเมืองถูกจำกัดให้อยู่ในพื้นที่ส่วนตัวอย่างคุ้นชิน พื้นที่เมืองกลายเป็นพื้นที่อันตรายที่ทุกคนต้องให้ความร่วมมือรัฐ ในการงดออกมาข้างนอกเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ส่งผลให้ความสัมพันธ์เชิงสังคม ถูกบีบให้อยู่บนโลกออนไลน์แทบจะเต็มรูปแบบ
พฤติการณ์เหล่านี้เองส่งผลให้เกิดแนวโน้มของ ความปกติใหม่ (New Normal) ทั้งในแง่ของ การเข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์บนทุกมิติของการใช้ชีวิต พฤติกรรมของคนที่เริ่มอยู่เป็นสันโดษในชีวิตจริง แต่มีปฏิสัมพันธ์ในโลกออนไลน์ จะเริ่มส่งผลเชิงพื้นที่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
โลกจะมี New Normal อย่างไร?
ประเด็นความเป็นไปของโลกภายหลังวิกฤตไวรัสโคโรนา กลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันในวงกว้างทั่วโลก มีความคิดเห็นจากนักวิชาการมากมายที่สอดคล้องไปในทางเดียวกันว่า อิทธิพลของความเป็นโลกาภิวัฒน์ (Globalization) จะเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ขอสรุปโดยรวบรัดดังนี้
โลกแคบลง แต่ห่างกันมากขึ้น เชิงความรู้สึก
ปรากฎการณ์โควิด19 ทำให้ปรากฎการณ์ ‘ตัวใครตัวมัน’ ของแต่ละประเทศ ถึงแม้ว่าไวรัสโคโรนาจะเป็นปัญหาที่กระทบไปทั่วโลก แต่กลับไม่เห็นความร่วมมือหรือมาตรการที่ออกมาจากประชาคมโลกอย่างเท่าเทียมในแต่ละประเทศ การจัดการในปัจจุบันนี้เป็นการจัดการแบบตัวใครตัวมัน โดยในช่วงเวลานี้ประชากรแต่ละประเทศจะเริ่มรู้สึกถึงความเป็นชาตินิยมที่จะต้องพาประเทศตัวเองให้รอดก่อนอันดับแรก
ถึงเวลาที่จีนจะเป็นศูนย์กลางของโลก และประเทศในเอเชียจะได้รับความเชื่อมั่นมากขึ้น
ถึงแม้จีนจะเป็นจุดต้นกำเนิดของประเกิดโรคระบาดนี้ แต่ในแง่ของการบริหารจัดการและควบคุมการแพร่ระบาด จีนพิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่าเด็ดขาดและฉับไว ทำคะแนนได้ดีกว่าสหรัฐอเมริกาในสายตาประชากรโลกและอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนของการเป็นผู้นำโลก
Kishore Manhbubani อดีตผู้อำนวยการองค์การความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council: UNSC) ได้ให้เหตุผลในเรื่องนี้ว่าไวรัสโคโรนาทำให้เกิดความแตกต่างด้านความศรัทธาของประชากรในชาติระหว่างจีนกับอเมริกา ในขณะที่ประชากรจีนไม่ผิดหวังกับการจัดการของประเทศตัวเอง แต่ประชากรสหรัฐอเมริกา กลับเริ่มเสียศรัทธาไปแล้ว
เช่นเดียวกับการจัดการของหลายประเทศในเอเชีย ซึ่งมีการจัดการและควบคุมการแพร่ระบาดได้รวดเร็วมากกว่า เห็นได้ชัดจากตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในฝั่งยุโรปและอเมริกาที่เพิ่มสูงขึ้นจนแซงหน้าประเทศในตะวันออกไปแล้ว การฟื้นตัวเร็วของกลุ่มประเทศในเอเชีย จะเป็นเหมือนผู้กอบกู้เศรษฐกิจโลกและสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุนมากขึ้น
ระบบเศรษฐกิจจะเปลี่ยนจากการขยายฐานการผลิต แต่เป็นระบบการผลิตแบบยืดหยุ่น
การแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจในโลก จะเริ่มเปลี่ยนจากการพยายามขยายฐานการผลิตและการทำสงครามการค้า ไปสู่การมุ่งพัฒนาฐานการผลิตที่สามารถยืดหยุ่นได้ เนื่องจากไวรัสโคโรนาเป็นบทเรียนชั้นดี ที่ทำให้เห็นการหยุดชะงักทางการผลิตซึ่งเป็นเหมือนกันทุกประเทศทั่วโลก การขยายฐานการผลิตจึงไม่ใช่ทางออกที่มองหาอีกต่อไป แต่เป็นการสร้างฐานการผลิตใหม่ที่สามารถปรับตัวและยืดหยุ่นได้ แม้ได้รับผลกระทบเหมือนในวิกฤตครั้งนี้
อ้างอิง: How will coronavirus change the world? Coronavirus Will Change the World Permanently. Here’s How. Welcome to the Great Transformation: How Covid-19 changed our world. How the World Will Look After the Coronavirus Pandemic.
https://www.terrabkk.com/articles/197696/ความปกติใหม่-new-normal-เชิงพฤติกรรมของเมืองและโลกใบนี้-หลังจบ-covid-19
ที่มา : https://youtu.be/ayfc_irznDM
จำหน่าย น้ำยากันลื่น SURE MOVE แก้ปัญหา พื้นห้องน้ำลื่น ด้วยวิธีง่าย ๆ เหมาะสำหรับใช้กับพื้นกระเบื้องเซรามิคทุกชนิด ยกเว้นกระเบื้องเคลือบเงาและกระเบื้องที่มีสีเข้ม
ได้ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน : ASTM E303-93 (2013) (ค่าแรงเสียดทานของพื้นผิว)
ติดต่อเรา
GMAIL : sureformove@gmail.com
LINE : http://nav.cx/3IqrJ4O
Jan 07, 2021
Dec 28, 2020