Last updated: 2020-12-25 | 69 จำนวนผู้เข้าชม |
ช่วงสถานการณ์โควิต-19 ที่ไม่น่าไว้ใจแบบนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อการเงินในกระเป๋าแน่นอน เพราะภาคธุรกิจโดยรวมก็สะดุด ในขณะที่บางคนรายได้น้อยลงเพราะไม่ได้มีการจ้างงาน ดังนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยจึงมีนโยบายให้ธนาคารพาณิชย์ทั้งหลายออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาลูกหนี้ในช่วงที่โควิด-19 ยังระบาดและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ บทความนี้มัดรวมมาให้แล้ว อัพเดทมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จากสถาการณ์โรค Covid-19 จากทุกธนาคาร
วิธีรับเงิน 5,000 บาท แบบออนไลน์ กรณี ลูกจ้างรายวัน ลูกจ้างชั่วคราว และอาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม
รวมมาตรการ พักชำระหนี้สินเชื่อรถยนต์ ฝ่าวิกฤต โควิด-19
มัดรวมมาให้แล้ว อัพเดทมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้จาก Covid-19 ทุกธนาคาร
มาตรการธนาคาร เยียวยาโควิด-19 อัพพเดทล่าสุดจาก 9 ธนาคาร
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา หลายธนาคารทั้งธนาคารสังกัดรัฐบาลและธนาคารพาณิชย์ภาคเอกชนได้ออกมาตรการเยียวยาลูกหนี้เพิ่มเติม ซึ่งหลักๆ แล้วก็จะเป็นการพักต้นลดดอกเบี้ย เน้นกลุ่มลูกหนี้รายย่อย และผู้้ประกอบการขนาดเล็ก เพื่อจะช่วยให้ประชาชนมีสภาพคล่องทางการเงินในช่วงโควิดระบาดแบบนี้
ธนาคารรัฐ
ธนาคารออมสิน
– มาตรการช่วยเหลือสำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัส Covid-19 โดยธนาคารฯ จะดำเนินการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้โดยอัตโนมัติเป็นเวลา 3 เดือน ให้กับลูกค้าเงินกู้ทุกรายที่มีสถานะชำระปกติจนถึงที่มีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 สำหรับลูกค้าสินเชื่อบุคคล สินเชื่อเคหะที่มีเงินต้นคงเหลือไม่เกิน 3 ล้านบาท และสินเชื่อSMEs ที่มีเงินต้นคงเหลือไม่เกิน 20 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง วันที่ 30 มิถุนายน 2563
– สำหรับลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ธนาคารออมสินช่วยลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำในปี 2563 ถึงปี 2564 จากเดิม 10% ของยอดเงินที่เรียกเก็บ เหลือ 5% ของยอดเงินที่เรียกเก็บ จากนั้นในปี 2565 ให้ชำระในอัตรา 8% ของยอดเงินที่เรียกเก็บ และปี 2566 อัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำอยู่ที่ 10% ของยอดเงินที่เรียกเก็บ
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
– มาตรการพักชำระเงินต้นระยะเวลา 3 เดือน และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน สำหรับลูกค้าที่มี วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท (ไม่จำกรอบวงเงินสินเชื่อ) มีสถานะบัญชีปกติ ไม่อยู่ในสถานะกฎหมาย สามารถ ลงทะเบียนได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2563
– มาตรการพักชำระเงินต้นระยะเวลา 1 ปี และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน (ไม่จำกัดกรอบวงเงิน สินเชื่อ) เมื่อครบกำหนดระยะเวลาที่พักชำระเงินต้นแล้ว สามารถแจ้งความประสงค์ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระเพิ่มได้นานสูงสุดอีก 10 ปี ซึ่งการขยายระยะเวลาจะทำให้เงินงวดรายเดือนของลูกค้าลดลงอีกด้วย สามารถลงทะเบียน ได้ภายในวันที่ 30 เมษายน 2563
– มาตรการพักชำระเงินต้นระยะเวลา 6 เดือน พร้อมลดดอกเบี้ยเหลือ 3.90% ต่อปี และจ่ายเฉพาะ ดอกเบี้ยรายเดือน กรอบวงเงินสินเชื่อ 50,000 ล้านบาท
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)
– มาตรการพักชำระเงินหนี้เงินต้นให้แก่ลูกค้าเงินกู้ทุกรายที่มีสถานะชำระปกติจนถึงที่มีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป คงเหลือชำระเฉพาะดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนเท่านั้น ซึ่งลูกค้าที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวจะได้รับสิทธิโดยอัตโนมัติทันที
– มาตรการลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% เป็นเวลา 1 ปี สำหรับลูกค้ากลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบด้วยธุรกิจโรงแรม ธุรกิจห้องพัก ธุรกิจสปา ธุรกิจร้านอาหาร/ภัตตาคาร ธุรกิจนำเที่ยว มัคคุเทศก์ และบริการขนส่งนักท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบทางตรงใน 22 จังหวัดหลักตามข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ธนาคารกรุงไทย
– มาตรการพักชำระหนี้ให้ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจที่มีสถานะชำระปกติ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 3 เดือน ทั้งลูกค้าสินเชื่อบุคคล ได้แก่ สินเชื่อ Smart Money และสินเชื่ออเนกประสงค์ 5 Plus และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมทั้งสินเชื่อธุรกิจ ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยสามารถยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน 2563
– มาตรการพักชำระเงินต้น 12 เดือนให้กับลูกค้ารายย่อย พักชำระเงินต้น 12 เดือน ขยายระยะเวลาชำระหนี้ตั๋วสัญญาใช้เงิน (P/N) และสินเชื่อ Trade Finance ออกไปอีก 6 เดือน สำหรับลูกค้าธุรกิจที่มีรายได้ลดลง
– สินเชื่อกรุงไทยต้ายภัยโควิด-19 ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 2% ต่อปี คงที่ 2 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ฟรีค่าธรรมเนียม บสย. ค้ำประกัน 4 ปี ทำธุรกรรมโอน รับ จ่าย ไม่คิดค่าธรรมเนียมนาน 1 ปี กับลูกค้าธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว โรงแรม รถเช่า ร้านขายของฝาก ของที่ระลึก
ธนาคารเอกชน
ธนาคารกรุงเทพ
– มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิต ปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำมาอยู่ที่ 5% (จากเดิม 10%) มีผลตั้งแต่รอบบิลของวันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป ต่อเนื่องเป็นเวลา 2 ปี
– กลุ่มลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบโดยตรง ที่มีอาชีพหรือทำงานในธุรกิจโรงแรม การท่องเที่ยว สายการบิน และอาชีพในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง หรือลูกค้าที่มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาท/เดือน สามารถขอรับความช่วยเหลือปรับอัตราดอกเบี้ยเป็นกรณีพิเศษ เป็นคงเหลือที่ 12%
– สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ ประเภทเงินกู้ (Installment Loan) สามารถลงทะเบียนขอรับการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน แจ้งความประสงค์เป็นรายบุคคลมายังช่องทางของธนาคาร
– สินเชื่อที่อยู่อาศัย วงเงินขณะอนุมัติไม่เกิน 3 ล้านบาท สามารถลงทะเบียนขอรับการพักชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน
– สินเชื่อธุรกิจ SME วงเงินขณะอนุมัติไม่เกิน 20 ล้านบาท สามารถขอพักชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) ได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน
ธนาคารกสิกรไทย
– ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิตกสิกรไทย เหลือ 5% จากเดิม 10% ในช่วงปี 2563-2564 เหลือ 8% ในปี 2565 และปรับเป็น 10% ตามเดิมอีกครั้งในปี 2566 ซึ่งจะมีผลกับลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องติดต่อมายังธนาคารแต่อย่างใด
– พักชำระเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ย สำหรับลูกค้าบัตรเครดิตกสิกรไทย และบัตรเงินด่วน XPress Cash จนถึงเดือนธันวาคม 2563
– สินเชื่อบ้านกสิกรไทย ให้พักชำระเงินต้น จ่ายแต่ดอกเบี้ยระยะเวลาสูงสุด 12 เดือน หรือลดยอดผ่อนต่องวด 50% สูงสุด 12 เดือน
– สินเชื่อธุรกิจ K SME สามารถพักชำระเงินต้น โดยจ่ายแต่ดอกเบี้ย ได้ในระยะเวลา 1 ปี และขอวงเงินสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งมี 2 โครงการให้เลือกได้แก่
– โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ มีวงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี ในช่วง 2 ปีแรกรับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2% และจ่ายแต่ดอกเบี้ย
– โครงการ SME สร้างไทย (บสย. เป็นผู้ค้ำประกัน) มีวงเงินกูสูงสุด 30 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อนชำระคืนสูงสุด 7 ปี
– สินเชื่อรถยนต์ K Leasing สามารถพักชำระเงินต้น และดอกเบี้ยได้ 3 รอบบัญชี
ธนาคารไทยพาณิชย์
– สินเชื่อบัตรเครดิตธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำจาก 10 เหลือ 5% ในปี 2563-2564 เหลือ8% ในปี 2565 และ 10% ในปี 2666
– สินเชื่อรถยนต์ พักชำระค่างวด 6 เดือน
– บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ทุกประเภท และสินเชื่อหมุนเวียน Speedy Cash พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 เดือน
– สินเชื่อบุคคล Speedy Loan พักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน
– สินเชื่อบ้าน พักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน
– สินเชื่อผู้ประกอบการรายย่อย ยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาท พักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน และขอสินเชื่อเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อัตราดอกเบี้ย 2% นาน 2 ปี ระยะเวลาการกู้สูงสุด 10 ปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
– สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ที่ไม่เป็นสินเชื่อค้างชำระเกิน 90 วัน ไม่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือ ไม่เป็นสินเชื่อที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563 พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน พักชำระหนี้เงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน
– ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารจะพิจารณามาตรการช่วยเหลือตามผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ แล้วแต่กรณี
– สินเชื่อยานยนต์ กรุงศรี ออโต้ พักชำระค่างวดสูงสุดระยะเวลา 5 เดือน สำหรับรถจักรยานยนต์ และสูงสุดระยะเวลา 6 เดือน สำหรับรถยนต์ และปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวดลง
– สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำต่อเดือน สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลจากเดิม 5% เหลือ 3% (เฉพาะสินเชื่อแบบชำระขั้นต่ำ) ตามรอบบัญชีตั้งแต่ 18 มีนาคม 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564 สำหรับลูกค้าทุกราย สำหรับผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตจากเดิม 10% เหลือ 5% ตามรอบบัญชีตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 ถึง 31 ธันวาคม 2564 สำหรับลูกค้าทุกราย
ธนาคารทีเอ็มบีและธนชาต
– มาตรการบัตรเครดิต ลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำเหลือ 5% จากเดิม 10% ในช่วงปี 2563-2564 เหลือ 8% ในปี 2565 และปรับเป็น 10% ตามเดิมอีกครั้งในปี 2566 ซึ่งจะมีผลกับลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องติดต่อมายังธนาคารแต่อย่างใด และบัตรกดเงินสดเหลือ 3%
– สินเชื่อรถยนต์ ธนชาต Drive พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยสูงสุด 6 เดือน
– สินเชื่อบ้านและสินเชื่อบุคคล พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน
– สินเชื่อเอสเอ็มอี เงินกู้ระยะยาวพักเงินต้น 6 เดือน ลดอัตราดอกเบี้ย O/D 1.5% ระยะเวลา 3 เดือน และพักชำระค่าธรรมเนียมประกัน บสย. 12 เดือน
– ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ เงินกู้ระยะยาวพักชำระเงินต้นและขยายเวลาผ่อนชำระสูงสุด 6 เดือน เงินกู้ระยะสั้น ขยายเวลาชำระเงินต้น 3 เดือน และเพิ่มวงเงินสินเชื่อ
ธนาคารไทยพาณิชย์
ล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ขอแจ้งปรับลดอัตราผ่อนชําระคืนขั้นตํ่า ให้ลูกค้าบัตรเครดิต SCB ทุกราย โดยไม่ต้องติดต่อแจ้งความจํานงกับทางธนาคาร เพื่อให้ความช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ธนาคารจะทําการปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นตํ่าให้ลูกค้าบัตรเครดิต SCB ทุกท่านโดยอัตโนมัติ จากเดิม 10% เป็น
– 5% ในปีพ.ศ. 2563-2564
– 8% ในปีพ.ศ. 2565
– 10% ในปีพ.ศ. 2566
ทั้งนี้การปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป โดยลูกค้าบัตรเครดิต SCB ทุกท่าน ไม่ต้องติดต่อแจ้งความจำนงเป็นรายบุคคลมาที่ธนาคารฯ แต่อย่างใดค่ะ
ทั้งนี้ สําหรับมาตรการความช่วยเหลือของผลิตภัณฑ์อื่นๆ คือสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถ และ SME สามารถคลิกดูได้ที่ https://www.scb.co.th/…/…/news/mar-2563/nws-support-npl.html
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้สร้างวิกฤติด้านการท่องเที่ยวให้กับผู้ประกอบการไทยทั้งผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลกระทบโดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลง รวมถึงนักท่องเที่ยวไทยชะลอการเดินทางท่องเที่ยวเช่นกัน ในขณะที่ผู้ประกอบการยังคงต้องแบกรับภาระต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง ส่งผลต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ธนาคารได้ออก 3 มาตรการช่วยเหลือ “ช่วยพัก ช่วยขาย ช่วยลดต้นทุน” กล่าวคือ
ธนาคารกรุงไทย
8 ข้อต้องรู้ นายจ้างมีสิทธิขอลดเงินเดือนหรือไม่ ในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาด
ธนาคารยูโอบี
ตั้งแต่เมษายน 2563 ธนาคารยูโอบีปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำ 10% เป็น 5% สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต และ 5% เป็น 2.5% สำหรับลูกค้าแคชพลัสทุกท่านที่มีสถานะปกติ โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร
ยูโอบีขอแจ้งปรับลดอัตราผ่อนชําระคืนขั้นตํ่าให้ลูกค้าบัตรเครดิตยูโอบี และแคชพลัสทุกท่าน โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร เพื่อช่วยเหลือและแบ่งเบาภาระของลูกค้าที่อาจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ธนาคารจะทำการปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำให้ลูกค้าทุกท่านดังนี้
ลูกค้าบัตรเครดิตยูโอบี
– ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 5% จนถึงสิ้นปี 2564
– ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 8% ในปี 2565
– ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 10% ในปี 2566
ลูกค้ายูโอบีแคชพลัส
– ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 2.5% จนถึงสิ้นปี 2565
– ปรับอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำเป็น 5% ในปี 2566
ทั้งนี้ การปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำนี้จะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป โดยลูกค้าบัตรเครดิตยูโอบี และยูโอบีแคชพลัสทุกท่านไม่ต้องแจ้งความประสงค์มาที่ธนาคารแต่อย่างใด
25 มีนาคม 2563
ธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายบุคคลที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวนอันส่งผลกระทบต่อลูกค้า โดยมีมาตรการผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ ขยายเวลาการชำระหนี้ ลดอัตราการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำและสินเชื่อบุคคล นานสูงสุด 12 เดือน
จำหน่าย น้ำยากันลื่น SURE MOVE แก้ปัญหา พื้นห้องน้ำลื่น ด้วยวิธีง่าย ๆ เหมาะสำหรับใช้กับพื้นกระเบื้องเซรามิคทุกชนิด ยกเว้นกระเบื้องเคลือบเงาและกระเบื้องที่มีสีเข้ม
ได้ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน : ASTM E303-93 (2013) (ค่าแรงเสียดทานของพื้นผิว)
ติดต่อเรา
GMAIL : sureformove@gmail.com
LINE : http://nav.cx/3IqrJ4O
Jan 07, 2021