Last updated: 2020-12-26 | 108 จำนวนผู้เข้าชม |
การปูพรมนั้นไม่ได้ให้แค่ความสวยงามและทำให้บ้านดูมีสไตล์เพิ่มขึ้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ ซึ่งการปูพรมนั้นจะดีกว่าปล่อยให้พื้นบ้านโล่งๆ ยังไง และควรจะ เลือกซื้อพรมปูพื้น แบบไหน my home พาไปดูกันค่ะ
ปูพรมนั้นดียังไง?
ก่อนจะเลือกพรมสักผืน ควรดูอะไรบ้าง
1. พื้นที่และลักษณะการใช้งาน
ภาพจาก http://frontdoor.furniturerow.com/
พรมปูพื้นห้องนอน
มาถึงห้องนอนที่ต้องการบรรยากาศผ่อนคลาย เพื่อให้เหมาะกับการพักผ่อนมากที่สุด จึงควรเลือกใช้พรมที่มีลักษณะนุ่มฟู ขนหนาแน่น ส่วนการเลือกขนาดพรมสำหรับปูบริเวณเตียงนอนนั้นก็ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ให้ด้านข้างเตียงทั้งสองฝั่งมีพรมมารองรับอย่างเต็มพื้นที่ตลอดแนว เพราะเป็นส่วนที่เท้าเราจะสัมผัสเสมอเวลาขึ้นหรือลงจากเตียง บริเวณท้ายเตียงและหัวเตียงนั้นอาจจะสั้นหรือเลยออกมาเล็กน้อยก็ไม่ใช่ปัญหาค่ะ
2.เลือกจากวัสดุของพรม
หลังจากที่วางแผนการปูพรมโดยดูจากพื้นที่การใช้งานแล้ว ก็ยังต้องมาดูกันต่อในเรื่องของวัสดุที่ใช้ ว่าพรมชนิดไหนมีลักษณะหรือเหมาะกับการใช้งานแบบใดบ้าง
1.พรมไนลอน (Nylon)
ภาพจาก https://img.grouponcdn.com
ถ้าพูดถึงเรื่องความทนทานและได้รับความนิยมมากที่สุด ก็ต้องยกให้พรมไนลอนเลยค่ะ นั่นเพราะคุณสมบัติที่ทั้งป้องกันน้ำ รอยขีดข่วน เชื้อราและสารเคมี แถมยังมีหลายสี หลากดีไซน์ รวมทั้งถ้าเทียบกับคุณภาพแล้วก็ถือว่าราคาไม่สูงเกินไปด้วยค่ะ
2.พรมโพลีโพรไพลีน (Polypropylene)
ภาพจาก https://richmedia.channeladvisor.com
พรมที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากพรมไนลอน ที่มีคุณสมบัติเด่นในการป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ มากที่สุด จึงเหมาะกับบริเวณที่ได้รับการกดทับและใช้งานค่อนข้างหนักอย่างการใช้ในห้องนั่งเล่น แถมยังทำความสะอาดง่ายและราคาย่อมเยากว่าพรมชนิดอื่น ๆ
3.พรมโพลีเอสเตอร์ (Polyester)
ภาพจาก https://ak1.ostkcdn.com
ถ้าหากอยากได้พรมสำหรับปูในห้องนอนก็ขอแนะนำพรมชนิดนี้เลยค่ะ เพราะด้วยสัมผัสที่นุ่มฟู ดูหรูหราและมีคุณสมบัติในการกันน้ำพร้อมทั้งดักจับฝุ่นเป็นเลิศ แต่ก็ทำความสะอาดได้ยากและไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก
4.พรมโพลีเอทิลีน (Polyethylene)
ภาพจาก http://homesfeed.com
พรมรักษ์โลกที่ได้ชื่อว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะมีการใช้พลาสติกรีไซเคิลมาเป็นวัสดุในการผลิต ซึ่งข้อดีก็คือสามารถป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ รวมทั้งไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ราคาไม่สูง ซึ่งแน่นอนว่าจะมีสัมผัสที่ไม่นุ่มเท่าพรมชนิดอื่น ๆ นะคะ
5.พรมขนสัตว์ (Wool)
ภาพจาก https://www.therugseller.co.uk
สำหรับบ้านที่งบถึงและต้องการพรมที่ดูหรูหรา หนานุ่ม และแข็งแรงทนทาน ครบครันในผืนเดียว ก็สามารถเลือกพรมขนสัตว์ที่ทำมาจากวัสดุธรรมชาติ 100% ได้เลยค่ะ ถึงราคาจะสูงแต่คุณภาพก็เหมาะสมกับราคา และแน่นอนว่าการใช้วัสดุจากธรรมชาตินั้นทำให้ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษที่ยากกว่าพรมชนิดอื่น ซึ่งต้องระวังเรื่องของแมลงและการก่อให้เกิดภูมิแพ้ด้วย
6.พรมอะคริลิก (Acrylic)
ภาพจาก https://ak1.ostkcdn.com
หากอยากได้พรมขนสัตว์ในงบประมาณที่ประหยัดกว่า ก็สามารถใช้พรมอะคริลิกแทนได้ค่ะ เพราะเป็นพรมที่มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งความทนทานอาจสู้ไม่ได้ แต่โดดเด่นในเรื่องของความสวยงามและป้องกันคราบรวมทั้งความชื้นได้ดีเลยทีเดียว
3. การเลือกสีหรือดีไซน์ให้เหมาะสม
การเลือกสีของพรมจะช่วยทำให้ห้องมีบรรกาศที่ต่างกันไป ซึ่งนอกจากความพอใจแล้วก็ยังมีเรื่องของภาพรวมที่เหมาะสมด้วย
พรมสีอ่อน จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น รวมทั้งยังดูสว่างและสบายตา ทำให้รู้ผ่อนคลาย แต่ก็ไม่เหมาะกับห้องที่ต้องเจอกับฝุ่นหรือคราบเยอะ
ภาพจาก https://images.homedepot-static.com
พรมสีปานกลาง สามารถกลมกลืนเข้ากับเฟอร์นิเจอร์รวมทั้งส่วนอื่น ๆ ในห้องได้ง่าย ไม่โดดเด่นเกินไป
ภาพจาก https://cdn.decorpad.com
พรมสีเข้ม อาจทำให้ห้องดูมืด แต่จะเพิ่มความหรูหรา เป็นทางการ และยังทำให้ไม่ค่อยเห็นรอบคราบสกปรกที่อาจเกิดขึ้นได้
Cr. https://www.baanlaesuan.com/95522/diy/easy-tips/carpet/3
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=wBMngxbGFus
จำหน่าย น้ำยากันลื่น SURE MOVE แก้ปัญหา พื้นห้องน้ำลื่น ด้วยวิธีง่าย ๆ เหมาะสำหรับใช้กับพื้นกระเบื้องเซรามิคทุกชนิด ยกเว้นกระเบื้องเคลือบเงาและกระเบื้องที่มีสีเข้ม
ได้ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน : ASTM E303-93 (2013) (ค่าแรงเสียดทานของพื้นผิว)
ติดต่อเรา
GMAIL : sureformove@gmail.com
LINE : http://nav.cx/3IqrJ4O
Jan 07, 2021